ติดตามละคร"ปิดทองหลังพระ"..ละครที่ระลึกถึงความกล้าหาญของรุ่นน้อง นรต.และสะท้อนความรู้สึกของตนเอง.... |
"...การทำงานด้วยใจรักต้องหวังผลงานนั้นเป็นสำคัญ แม้จะไม่มีใครรู้ใครเห็นก็ไม่น่าวิตก เพราะผลสำเร็จนั้นจะเป็นประจักษ์พยานที่มั่นคง ที่พูดเช่นนี้เหมือนกับสอนให้ปิดทองหลังพระ การปิดทองหลังพระนั้นเมื่อถึงคราวจำเป็นก็ต้องปิด ว่าที่จริงแล้วคนโดยมากไม่ค่อยชอบปิดทองหลังพระกันนัก เพราะนึกว่าไม่มีใครเห็น แต่ถ้าทุกคนพากันปิดทองข้างหน้า ไม่มีใครปิดทองหลังพระเลย พระจะเป็นพระที่งามบริบูรณ์ไม่ได้..." พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2506 ....................................................... พระบรมราโชวาทในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวดังกล่าวข้างต้น แสดงให้เห็นถึงหลักในการปฏิบัติงานที่คนทุกอาชีพสามารถนำไปปฏิบัติได้ เพื่อความสงบสุขของสังคม และบุคคลที่เป็นตัวอย่างในการนำหลักการดังกล่าวไปปฏิบัติให้สังคมไทยได้เห็นอย่างชัดเจนคือ ผู้กองแคน หรือร.ต.อ.ธรณิศ ศรีสุข และ ร.ต.อ.กฤตติกุล บุญลือ หรือหมวดตี้ สองวีรบุรุษไทยที่ทำหน้าที่รักษาความสงบใน 3 จังหวัดชายแดนภายใต้ จนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชดำรัสเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า....
"...ข้าพเจ้าอ่านแล้วก็นึกสงสารพ่อแม่เขา นึกถึงความเสียสละของนักรบเหล่านี้ ซึ่งมีทั้งทหาร ทั้งตำรวจที่อยู่ในพื้นที่อันตราย ซึ่งคนที่อยู่ในกรุงเทพฯ อาจนึกไม่ออกว่าอันตรายแค่ไหน ซึ่งที่นั้นมีทั้งปืน ทั้งระเบิด ทั้งอะไร ถ้าพวกเราคนไทยทั้งประเทศสามารถส่งกำลังใจไปให้เขา มีจดหมายหรืออะไรก็ตาม ส่งไปให้ความ ให้กำลังใจ แก่นักรบเหล่านี้ที่เป็นคนดี และเป็นคนที่เสียสละเพื่อประเทศชาติ อย่าง 2 นายตำรวจที่ข้าพเจ้ารู้จักนี้ รู้จักชื่อเนี่ย คงมีอีกเยอะแยะที่ไม่รู้จัก ที่ทำงานเสี่ยงภัย ยังคงมีเหล่าวีรชนผู้กล้าอีกมาก ที่เสียสละ ที่ไม่รู้จัก ที่ปิดทองหลังพระ"
ภาพยนตร์"เรื่อง ปิดทองหลังพระ ตอน ความฝันอันสูงสุด" เกิดขึ้นได้ก็เพราะสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบรมราโชวาทของทั้งสองพระองค์ดังกล่าว ภายใต้การดำเนินการของมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช ซึ่งมี ดร.จรินทร์ สวนแก้ว ดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิฯ ซึ่งได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเชิดชูความดี และประกาศเกียรติคุณแห่งวีรบุรุษผู้กล้า ผู้เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย และเพื่อปลุกจิตสำนึกคนไทยรู้รักชาติ รู้รักสามัคคี และเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อีกจุดประสงค์หนึ่ง โครงการภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ "ปิดทองหลังพระ" ตอน ความฝันอันสูงสูง เป็นการสร้างเพื่อหารายได้เพื่อสร้าง 60 ปี หอเฉลิมพระเกียรติราชาภิเษกสมรสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ แล้วก็จะมอบรายได้ส่วนหนึ่งให้กับครอบครัววีรชนผู้เสียสละเพื่อชาติ รวมทั้งนำรายได้ไปจัดสร้างอนุเสาวรีย์วีรบุรุษ ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดขอนแก่น ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งกำลังใจสู่ทหารหาญ และทุกคนที่ทำหน้าที่เสียสละอยู่ในพื้นที่เสี่ยงอันตราย เพื่อปกป้องแผ่นดินไทยผืนนี้ไว้ให้กับพวกเราทุกคน "ความฝันอันสูงสุด" มีเนื้อหาและแนวคิดในการมุ่งนำเสนอวีรกรรมของ วีรชนผู้เสียสละชีพเพื่อชาติ มาจัดสร้างเป็นเนื้อหาละคร โดยมีวีรกรรมของผู้กองแคน และผู้หมวดตี้ เป็นตัวแทนของทหาร ตำรวจ และผู้เสียสละในแผ่นดินแห่งนี้ทุกท่าน
ภาพยนตร์ดังกล่าวมีเรื่องย่อที่เล่าย้อนไปในปี 2550 ซึ่งเป็นช่วงที่แผ่นดินใต้ลุกเป็นไฟ ทหารและตำรวจไทยต้องสังเวยชีวิตเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทย และเป็นที่มาของเหตุการณ์สร้างวีรกรรมของ ร.ต.อ.ธรณิศ ศรีสุข (รับบทโดย พ.ต. วันชนะ สวัสดี) หรือ "ผู้กองแคน" ซึ่งขณะนั้นมีอายุ 30 ดำรงตำแหน่ง รอง ผบ.ร้อย รบพิเศษ 1 (รพศ. 1) กก. 1 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ (ตชด.) ค่ายนเรศวร จ. เพชรบุรี ซึ่งเสียชีวิตจากการปะทะกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ที่บริเวณเนินเนาวรัตน์ หรือเนิน 9 ศพ ผู้กองแคนคือแบบอย่างที่ดีของ ร.ต.ต. กฤตติกุล บุญลือ (รับบทโดยศรราม เทพพิทักษ์) หรือ "หมวดตี้" ซึ่งขณะนั้นมีอายุ 24 ปี นายตำรวจหนุ่มไฟแรงและอนาคตไกล ซึ่งเรียนจบนักเรียนตำรวจรุ่นที่ 60 เขาเลือกลงหน่วย ตชด. สังกัดพลร่ม ค่ายนเรศวร เพราะประทับใจในความกล้าหาญและเด็ดเดี่ยวในตัวผู้กองแคน และได้สัมผัสชีวิตการทำงานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เคียงบ่าเคียงไหล่อย่างไม่เกรงกลัวอันตรายในสมรภูมิภาคใต้อันร้อนระอุ จนกระทั่งหมวดตี้ถูกคนร้ายซุ่มยิงจนเสียชีวิตขณะลาดตระเวน "วีรบุรุษเขื่อนบางลาง คือความตั้งใจของสองนักรบผู้กล้า" นอกจากนี้ยังมีตัวละครอีก 4 ตัวที่ล้วนแล้วมีชีวิตจริง คือ ผู้กองช้าง รับบทโดย เอก รังสิโรจน์ ซึ่งผู้กองจ้างเป็นรุ่นพี่ผู้มีอุดมการณ์เดียวกันและเคยช่วยชีวิตผู้กองแคนหลายครั้ง ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาโดยตลอด และเป็นคนที่ผู้กองแคนนับถือมาก นัตตี้ รับบทโดย อคัมย์สิริ สุวรรณศุข ซึ่งเป็นหญิงคนรักของผู้กองแคน ที่ต้องสูญเสียคนรักก่อนการแต่งงาน แม้จะต้องเผชิญกับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของชีวิต แต่เธอก็ยังสามารถยืดหยัดอยู่ได้ด้วยกำลังใจอันเข้มแข็ง จ่าหวาน ซึ่งจ่าหวานเป็นตำรวจชายแดนคู่ใจผู้กองแคน ที่ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่ ซึ่งสามารถตายแทนกันได้ ซึ่งรับบทโดยวีรบุรุษเหรียญทองโอลิมปิก สมจิต จงจอหอ แม่หมวดตี้ รับบทโดย กาญจนาพร ปลอดภัย ซึ่งแม่หมวดตี้เป็นผู้เข้าใจในปณิธานการทำงานเพื่อแผ่นดินอันยิ่งใหญ่ของลูก ถึงแม้จะทัดทานเพราะไม่อยากสูญเสียลูกชายสุดที่รัก แต่ที่สุดก็เข้าใจในความตั้งใจอันแน่วแน่ของลูกชาย ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับความร่วมมือจากดารานักแสดงที่ได้รับการติดต่อทาบทามด้วยความยินดี และรู้สึกเป็นเกียรติที่จะได้ทำงานเพื่อมอบเป็นขวัญและกำลังใจแก่ผู้เสียสละ ในโครงการนี้ อกทั้งได้ร่วมใจกันแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและแผ่นดินไทยร่วมกัน นายสมชาย เจริญสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทไทยเทเลวิชั่น จำกัด ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายภาพยนตร์เทิดพระเกียรติ มูลนิธิ 5 ธันวามหาราช กล่าวว่า "ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ได้ทำการถ่ายทำเมื่อปลายปี 2551 จนกระทั่งการถ่ายทำสำเร็จลงอย่างสมบูรณ์แล้วในวันนี้ และพร้อมจะเผยแพร่ต่อประชาชนชาวไทย โดยจัดทำเป็นดีวีดีจำหน่าย พร้อมทั้งในวันที่ 4-5 ธันวาคม 2553 จะจัดฉายภาพยนตร์เทิดพระเกียรติปิดทองหลังพระ 9 จอยักษ์ และงานนิทรรศการเชิดชู "คนดีปิดทองหลังพระ" เพื่อรำลึกถึงคนที่ทำดีเสียสละเพื่อประเทศชาติ อาทิ พล.ต.อ. สมเพียร เอกสมญา "วีรบุรุษแห่งเทือกเขาบูโด" ร.ต.อ.ธรณิศ ศรีสุข หรือผู้กองแคน และร.ต.ต. กฤตติกุล บุญลือ หรือหมวดตี้ สองวีรบุรุษที่นำมาสร้างละครเทิดพระเกียรติในครั้งนี้ รวมไปถึงคุณครูจูหลิง ปงกันมูล และผู้เสียสละคนอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวนาม ซึ่งยังมีอีกจำนวนมากที่เราสมควรเชิดชูคนดีปิดทองหลังพระทุกท่าน" หากคนไทยทุกคนยึดถือพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเกี่ยวกับเรื่องการปิดทองหลังพระไปปฏิบัติใช้ในการทำงาน หรือแม้แต่การกระทำการใดๆ ก็ตาม คงจะทำให้ประเทศของเรานี้ร่มเย็น เพราะเมื่อคนมีในประเทศมีจิตใจงาม แผ่นดินก็จะปกติสุขสืบไป
..อย่างน้อยตัวเอกในเรื่องคือน้องเราที่เอาชีวิตเข้าแลก ไม่มีโอกาสได้รับรู้ความยิ่งใหญ่ที่ทิ้งไว้....เหลือแต่รุ่นพี่รุ่นน้องที่ต้องสู้กันต่อไป.."แบบปิดทองหลังพระ"....ติดตามชมได้ในเร็วๆนี้...มีโปรแกรมวันไหนอย่างไรจะแจ้งให้ทราบต่อไปครับ
ขอบคุณเจ้าของเรื่องไว้ด้วยครับ... http://www.siamrath.co.th/?q=node/65189
.....ขอเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนๆที่อยู่ ศชต.ทุกๆนายครับ...สู้ๆครับเพื่อน....
|
< ก่อนหน้า | ถัดไป > |
---|